ไอดี 4 สงครามวันดับโลก - 1996 [6.9]
โพสต์
25 ส.ค., 2559
วันที่ออกฉาย: 9 สิงหาคม 2539 (ประเทศไทย)
ผู้กำกับ: โรแลนด์ เอมเมอริค
ภาคต่อ: ID Forever Part I
ประพันธ์ดนตรีโดย: เดวิด อาร์โนลด์
บทภาพยนตร์: โรแลนด์ เอมเมอริค, Dean Devlin
วันที่ 2 กรกฎาคม จู่ ๆ ทั่วโลกก็เกิดโกลาหลเมื่อพบว่าสัญญานการสื่อสารถูกรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือดาวเทียม พร้อมกันนั้นก็มีผู้พบสัญญาณที่เชื่อว่ามาจากจานบินที่กำลังมุ่งหน้ามาทางโลก ซึ่งสัญญาณนั้นถูกส่งมาจากดวงจันทร์ โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมปรากฏให้เห็นยานแม่ขนาดความกว้างกว่า 550 กิโลเมตร หรือ 1 ใน 4 ของดวงจันทร์ และยานแม่ได้ส่งยานลูกนับสิบๆ ลำ โดยแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไมล์ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยประธานาธิบดี วิทมอร์ และคณะไม่รู้จะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์
ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ เดวิด ลีวินสัน อ่านสัญญาณนั้นออกและเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณบอกให้โจมตีโลกพร้อมกัน จึงรีบไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อเตือนประธานาธิบดีก่อนจะสายเกินไป ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ผู้กองสตีเว่น ฮิลเลอร์ นักบินผู้ไม่กลัวใครของกองทัพสหรัฐ ถูกเรียกตัวไปประจำหน้าที่โดยไม่ได้อยู่ร่วมฉลองวันชาติพร้อมกับครอบครัว
ณ ทำเนียบขาว เดวิดได้อธิบายถึงการที่ดาวเทียมไร้ผลซึ่งเกิดจากการติดต่อระหว่างจานบินทั่วโลก และจากตามที่คำนวณได้เหลือเวลาเพียง 27 นาทีก่อนที่จานบินจะโจมตี ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลกำลังส่งเฮลิคอปเตอร์แบบติดไฟพิเศษขึ้นไปติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ถูกตอบรับด้วยการยิงกลางอากาศ จึงมีคำสั่งให้อพยพคนในเมืองทั้งหมด โดยเหลือเวลาอีก 1 นาที ประธานาธิบดี เดวิด จูเลี่ยน และผู้ติดตาม ยกเว้นภรรยาของประธานาธิบดี ได้ขึ้น แอร์ฟอร์ซวัน หนีออกจากเมือง และก็เป็นดั่งคำทำนายของเดวิด เมื่อจานบินทุกลำพร้อมกันยิงแสงทำลายอาคารบ้านเรือนพร้อมกันทั่วโลก ทั้ง ตึกเอ็มไพร์สเตท, ตึกไครสเลอร์, ทำเนียบขาว มีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน
วันที่ 3 กรกฎาคม ผู้กองฮิลเลอร์และทหารจำนวนหนึ่งได้พยายามที่ใช้เครื่องบินรบสู้กับจานบิน แต่จานบินนั้นมีเกราะสนามพลังอยู่ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ผู้กองฮิลเลอร์จึงล่อจานบินลำหนึ่งให้ไปชนกับภูเขาและได้นำร่างของมนุษย์ต่างดาวซึ่งสลบอยู่ไปหาฐานทัพที่เขาเห็นระหว่างบิน ในระหว่างที่อยู่บนแอร์ฟอร์ซวัน จูเลี่ยน พ่อของเดวิดก็ได้เสนอความคิดเพี้ยนๆ ขึ้นมาถึงเรื่องแอเรีย 51 สถานที่ ๆ เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐเก็บศพมนุษย์ต่างดาวไว้ แต่กลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้มีจริง และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปที่แอเรีย 51 ในขณะนั้นผู้กองฮิลเลอร์ก็มาถึง แอเรีย 51 พร้อมกับร่างของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งประธานาธิบดีและคนของเขาก็ตามมาถึง และได้พบความจริงว่า แอเรีย 51 นั้นได้มีการจับตัวมนุษย์ต่างดาว 3 ตัวที่เสียชีวิตจากยานตกในปี ค.ศ. 1947
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ดร.โอเคน ได้ทำการผ่าตัดมนุษย์ต่างดาวที่ผู้กองฮิลเลอร์จับมาได้ แต่ทว่ามันหลุดรอดออกมาพร้อมสะกดจิตเขาไว้ มนุษย์ต่างดาวได้สื่อสารกับประธานาธิบดีผ่านทาง ดร.โอเคน และได้รู้ว่าพวกมันเหมือนฝูงตั๊กแตนที่อพยพไปเพื่อหาแหล่งอาหารไปเรื่อย ๆ เมื่ออาหารหมดก็จะอพยพไปดาวอื่นต่อไป มนุษย์ต่างดาวใช้พลังจิตทำร้ายประธานาธิบดีวิทมอร์ แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย วิทมอร์สั่งให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตี แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรจานบินแม้แต่น้อย
วันที่ 4 กรกฎาคม ท่ามกลางความสิ้นหวัง เดวิดพยายามหาทางที่จะเจาะระบบเกราะสนามพลังให้ได้ และพบว่าไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถปิดเกราะของจานบินได้ชั่วคราว พวกเขาจึงเตรียมการใช้จานบินลำที่ตกลงมาในปี ค.ศ. 1947 ขึ้นไปอัปโหลดไวรัสบนยานแม่และวางระเบิดนิวเคลียร์ภายในยาน ส่วนนักบินที่เหลือให้รวมตัวเพื่อทำลายจานบินขณะที่เกราะยังปิดอยู่ และได้ใช้รหัสมอสเพื่อส่งข้อความไปยังฐานทัพทั่วโลกเพื่อให้โจมตี
หลังจากที่แผนการใช้ไวรัสประสบผล ประธานาธิบดีวิทมอร์ได้ขับเครื่องบินรบคู่กับนักบินคนอื่นร่วมกันโจมตีจานบินและยานเอเลี่ยนเหนือแอเรีย 51 ถึงจานบินจะไร้สนามพลังแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรจานบินได้มากนัก และจานบินเตรียมพร้อมที่จะยิง แอเรีย 51 เนื่องด้วยเครื่องบินส่วนใหญ่มิสไซล์หมด วิทมอร์จึงสั่งถอยทัพ รัสเซลล์ เคสส์ ซึ่งยังเหลือมิสไซล์อีกลูกหนึ่ง แต่มิสไซล์ขัดลำ เขาจึงใช้วิธีแบบกามิกาเซ่ตรงเข้าไปยังฐานยิงลำแสงทำลายล้างของจานบิน ทำให้จานบินเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และถูกทำลายในที่สุด ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่ทั่วโลกก็รู้จุดอ่อนของจานบิน ขณะเดียวกันผู้กองฮิลเลอร์และเดวิดได้วางระเบิดบนยานแม่ และทั้งคู่ก็หนีออกมาอย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
[id]ตัวอย่าง;https://www.youtube.com/watch?v=kA2WzBi2grE|ดูเต็มเรื่อง;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3SG1PUldVcjZvNEk|[/id]
ผู้กำกับ: โรแลนด์ เอมเมอริค
ภาคต่อ: ID Forever Part I
ประพันธ์ดนตรีโดย: เดวิด อาร์โนลด์
บทภาพยนตร์: โรแลนด์ เอมเมอริค, Dean Devlin
วันที่ 2 กรกฎาคม จู่ ๆ ทั่วโลกก็เกิดโกลาหลเมื่อพบว่าสัญญานการสื่อสารถูกรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือดาวเทียม พร้อมกันนั้นก็มีผู้พบสัญญาณที่เชื่อว่ามาจากจานบินที่กำลังมุ่งหน้ามาทางโลก ซึ่งสัญญาณนั้นถูกส่งมาจากดวงจันทร์ โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมปรากฏให้เห็นยานแม่ขนาดความกว้างกว่า 550 กิโลเมตร หรือ 1 ใน 4 ของดวงจันทร์ และยานแม่ได้ส่งยานลูกนับสิบๆ ลำ โดยแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไมล์ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยประธานาธิบดี วิทมอร์ และคณะไม่รู้จะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์
ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ เดวิด ลีวินสัน อ่านสัญญาณนั้นออกและเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณบอกให้โจมตีโลกพร้อมกัน จึงรีบไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อเตือนประธานาธิบดีก่อนจะสายเกินไป ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ผู้กองสตีเว่น ฮิลเลอร์ นักบินผู้ไม่กลัวใครของกองทัพสหรัฐ ถูกเรียกตัวไปประจำหน้าที่โดยไม่ได้อยู่ร่วมฉลองวันชาติพร้อมกับครอบครัว
ณ ทำเนียบขาว เดวิดได้อธิบายถึงการที่ดาวเทียมไร้ผลซึ่งเกิดจากการติดต่อระหว่างจานบินทั่วโลก และจากตามที่คำนวณได้เหลือเวลาเพียง 27 นาทีก่อนที่จานบินจะโจมตี ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลกำลังส่งเฮลิคอปเตอร์แบบติดไฟพิเศษขึ้นไปติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ถูกตอบรับด้วยการยิงกลางอากาศ จึงมีคำสั่งให้อพยพคนในเมืองทั้งหมด โดยเหลือเวลาอีก 1 นาที ประธานาธิบดี เดวิด จูเลี่ยน และผู้ติดตาม ยกเว้นภรรยาของประธานาธิบดี ได้ขึ้น แอร์ฟอร์ซวัน หนีออกจากเมือง และก็เป็นดั่งคำทำนายของเดวิด เมื่อจานบินทุกลำพร้อมกันยิงแสงทำลายอาคารบ้านเรือนพร้อมกันทั่วโลก ทั้ง ตึกเอ็มไพร์สเตท, ตึกไครสเลอร์, ทำเนียบขาว มีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน
วันที่ 3 กรกฎาคม ผู้กองฮิลเลอร์และทหารจำนวนหนึ่งได้พยายามที่ใช้เครื่องบินรบสู้กับจานบิน แต่จานบินนั้นมีเกราะสนามพลังอยู่ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย ผู้กองฮิลเลอร์จึงล่อจานบินลำหนึ่งให้ไปชนกับภูเขาและได้นำร่างของมนุษย์ต่างดาวซึ่งสลบอยู่ไปหาฐานทัพที่เขาเห็นระหว่างบิน ในระหว่างที่อยู่บนแอร์ฟอร์ซวัน จูเลี่ยน พ่อของเดวิดก็ได้เสนอความคิดเพี้ยนๆ ขึ้นมาถึงเรื่องแอเรีย 51 สถานที่ ๆ เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐเก็บศพมนุษย์ต่างดาวไว้ แต่กลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้มีจริง และทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปที่แอเรีย 51 ในขณะนั้นผู้กองฮิลเลอร์ก็มาถึง แอเรีย 51 พร้อมกับร่างของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งประธานาธิบดีและคนของเขาก็ตามมาถึง และได้พบความจริงว่า แอเรีย 51 นั้นได้มีการจับตัวมนุษย์ต่างดาว 3 ตัวที่เสียชีวิตจากยานตกในปี ค.ศ. 1947
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ดร.โอเคน ได้ทำการผ่าตัดมนุษย์ต่างดาวที่ผู้กองฮิลเลอร์จับมาได้ แต่ทว่ามันหลุดรอดออกมาพร้อมสะกดจิตเขาไว้ มนุษย์ต่างดาวได้สื่อสารกับประธานาธิบดีผ่านทาง ดร.โอเคน และได้รู้ว่าพวกมันเหมือนฝูงตั๊กแตนที่อพยพไปเพื่อหาแหล่งอาหารไปเรื่อย ๆ เมื่ออาหารหมดก็จะอพยพไปดาวอื่นต่อไป มนุษย์ต่างดาวใช้พลังจิตทำร้ายประธานาธิบดีวิทมอร์ แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย วิทมอร์สั่งให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตี แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรจานบินแม้แต่น้อย
วันที่ 4 กรกฎาคม ท่ามกลางความสิ้นหวัง เดวิดพยายามหาทางที่จะเจาะระบบเกราะสนามพลังให้ได้ และพบว่าไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถปิดเกราะของจานบินได้ชั่วคราว พวกเขาจึงเตรียมการใช้จานบินลำที่ตกลงมาในปี ค.ศ. 1947 ขึ้นไปอัปโหลดไวรัสบนยานแม่และวางระเบิดนิวเคลียร์ภายในยาน ส่วนนักบินที่เหลือให้รวมตัวเพื่อทำลายจานบินขณะที่เกราะยังปิดอยู่ และได้ใช้รหัสมอสเพื่อส่งข้อความไปยังฐานทัพทั่วโลกเพื่อให้โจมตี
หลังจากที่แผนการใช้ไวรัสประสบผล ประธานาธิบดีวิทมอร์ได้ขับเครื่องบินรบคู่กับนักบินคนอื่นร่วมกันโจมตีจานบินและยานเอเลี่ยนเหนือแอเรีย 51 ถึงจานบินจะไร้สนามพลังแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรจานบินได้มากนัก และจานบินเตรียมพร้อมที่จะยิง แอเรีย 51 เนื่องด้วยเครื่องบินส่วนใหญ่มิสไซล์หมด วิทมอร์จึงสั่งถอยทัพ รัสเซลล์ เคสส์ ซึ่งยังเหลือมิสไซล์อีกลูกหนึ่ง แต่มิสไซล์ขัดลำ เขาจึงใช้วิธีแบบกามิกาเซ่ตรงเข้าไปยังฐานยิงลำแสงทำลายล้างของจานบิน ทำให้จานบินเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และถูกทำลายในที่สุด ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่ทั่วโลกก็รู้จุดอ่อนของจานบิน ขณะเดียวกันผู้กองฮิลเลอร์และเดวิดได้วางระเบิดบนยานแม่ และทั้งคู่ก็หนีออกมาอย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
[id]ตัวอย่าง;https://www.youtube.com/watch?v=kA2WzBi2grE|ดูเต็มเรื่อง;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3SG1PUldVcjZvNEk|[/id]