ร็อคกี้ ราชากำปั้น ทุบสังเวียน ภาค 1 6 - 1976 [HD]
โพสต์
18 มิ.ย., 2559
ผู้กำกับ: จอห์น จี. อวิลด์เซน
ประพันธ์ดนตรีโดย: Bill Conti
เพลงเด่น: Gonna Fly Now
เมื่อสามสิบปีก่อน เขาก็เป็นแค่ชายไร้อนาคตที่ทำงานให้เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้รายเล็ก ๆ ในย่านเซ้าธ์ไซด์ของฟิลาเดลเฟีย แล้วจู่ ๆ ชะตาฟ้าลิขิตให้ได้ขึ้นชกกับ อพอลโล่ ครี้ด แชมป์โลกผู้เกรียงไกร นั่นเป็นเสี้ยวนาทีแห่งชีวิตที่มีโอกาสแค่หนึ่งในล้านเลยทีเดียว ซึ่งก็เขาต้องการเพียงแค่จะประสบความสำเร็จขั้นสุดยอดเท่านั้น ความกล้าหาญกับความอดทนของเขา ทั้งในการดำรงชีวิตและ บนสังเวียนผืนผ้าใบเป็นตัวอย่างแห่งความหวังให้กับผู้คนนับล้านชีวิต
บัดนี้วันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของร็อคกี้ บัลโบ ( ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ) ได้ล่วงเลยผ่านไปแล้ว จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอิตาเลี่ยนจอมแกร่ง ก็เหลือเพียงความทรงจำเด็ด ๆ ไว้เล่าให้ลูกค้าร้านอาหารของเขาฟังทุกค่ำคืน ร้าน Adrian’s ที่เขาตั้งชื่อตามชื่อของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วแต่เขาก็ยังไม่อาจตัดใจได้เสียที ในขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน (ไมโล เวนทิมิเกลีย) ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับพ่อสักเท่าไหร่ เขาพยายามจะก่อร่างสร้างตัวให้ยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเองจนแทบไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย ทั้งสังขารที่แก่ตัวลงทุกวัน และผลจากการกรำศึกมานับสังเวียนไม่ถ้วน ทำให้ ร็อคกี้ ทุกวันนี้ไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า หมัดก็ไม่หนักดังเดิม เดินไปไหนมาไหนก็ไหล่ห่อ จนแทบไม่เหลือเค้าลางแห่งวันที่เคยเกรียงไกร หากจะมีหลงเหลืออยู่บ้างก็แค่เพียงเรื่องเก่า ๆ เล่าขานไปวัน ๆ แต่ลึกลงไปในใจแล้วเขาก็ยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ในใจของเขาแล้ว ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้อยู่ตลอดเวลา
เมสัน “เดอะ ไลน์”(แอนโทนิโอ ทาร์เวอร์ ) ดิ๊กซ่อนเป็นนักชกเจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวทที่ได้มาจากการชกกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เก่งกาจนัก จนแทบไม่ได้พิสูจน์ผีไม้ลายมือในสังเวียนเอาเลย เพราะไม่เคยเจอกับคู่ชกที่กระดูกมวยพอฟัดพอเหวี่ยงเลยสักคน ดิ๊กซ่อนจึงเป็นแค่นักชกมีศิลปะเชิงมวยเพียบพร้อมแต่ไม่ได้ใจแฟนมวยเลยสักนิดเดียว นั่นก็เท่ากับไร้อนาคตในวงการกีฬาโดยสิ้นเชิง...
แล้วก็เกิดศึกเสมือนจริงที่อาศัยคอมพิวเตอร์สร้างสถานการณ์ให้เขาได้เปรียบเชิงมวยกับ ร็อคกี้ บัลโบ สมัยที่นักชกผู้เกรียงไกรยังรุ่งโรจน์ ถ้าจับทั้งคู่มาดวลหมัดกันใครจะเป็นเจ้าสังเวียน ระหว่าง ดิ๊กซ่อนลีลาแย็บและฟุตเวิร์คสุดเฉียบ กับ ร็อคกี้ใจแกร่งแรงไม่มีถอย ผู้จัดการของดิ๊กซ่อนก็คิดได้ว่า นี่จะเป็นวืธีเรียกศรัทธาจากแฟนมวยได้เป็นอย่างดี แล้วผู้คนน่าจะหันมาสนใจการชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวทกันอีกครั้ง
จากแนวคิดที่เป็นเพียงเรื่องขำ ๆ คิดกันไปได้ กลายเป็นศึกชิงเจ้าสังเวียนที่ดึงให้ ร็อคกี้ ซึ่งอายุอานามมากกว่า ดิ๊กซ่อน คู่ชกหนุ่ม เกือบ 2 เท่า ได้กลับขึ้นสังเวียนที่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้โอกาสอีกครั้ง และเป็นโอกาสหนึ่งในล้านที่จะพิสูจน์ตัวเอง และให้คนที่เขารักได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชราแต่จิตใจกลับแกร่งกว่าเดิม
ตัวอย่าง;https://www.youtube.com/watch?v=7RYpJAUMo2M|ร็อคกี้ 1;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3eE9PdG1SVzlmejA|ร็อคกี้ 2;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3c3A0cThIWmg3OFE|ร็อคกี้ 3;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3VkpTb2NsWkdpVHM|ร็อคกี้ 4;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3R3Z2N1BSSHJ6Z2M|ร็อคกี้ 5;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3dlo0SHpFYU91b1k|ร็อคกี้ 6;http://dubth.gl/0c0B0B0yPq7AOpOm3NEJvS2NfdC12Mnc|
ประพันธ์ดนตรีโดย: Bill Conti
เพลงเด่น: Gonna Fly Now
เมื่อสามสิบปีก่อน เขาก็เป็นแค่ชายไร้อนาคตที่ทำงานให้เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้รายเล็ก ๆ ในย่านเซ้าธ์ไซด์ของฟิลาเดลเฟีย แล้วจู่ ๆ ชะตาฟ้าลิขิตให้ได้ขึ้นชกกับ อพอลโล่ ครี้ด แชมป์โลกผู้เกรียงไกร นั่นเป็นเสี้ยวนาทีแห่งชีวิตที่มีโอกาสแค่หนึ่งในล้านเลยทีเดียว ซึ่งก็เขาต้องการเพียงแค่จะประสบความสำเร็จขั้นสุดยอดเท่านั้น ความกล้าหาญกับความอดทนของเขา ทั้งในการดำรงชีวิตและ บนสังเวียนผืนผ้าใบเป็นตัวอย่างแห่งความหวังให้กับผู้คนนับล้านชีวิต
บัดนี้วันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของร็อคกี้ บัลโบ ( ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ) ได้ล่วงเลยผ่านไปแล้ว จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอิตาเลี่ยนจอมแกร่ง ก็เหลือเพียงความทรงจำเด็ด ๆ ไว้เล่าให้ลูกค้าร้านอาหารของเขาฟังทุกค่ำคืน ร้าน Adrian’s ที่เขาตั้งชื่อตามชื่อของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วแต่เขาก็ยังไม่อาจตัดใจได้เสียที ในขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน (ไมโล เวนทิมิเกลีย) ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับพ่อสักเท่าไหร่ เขาพยายามจะก่อร่างสร้างตัวให้ยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเองจนแทบไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย ทั้งสังขารที่แก่ตัวลงทุกวัน และผลจากการกรำศึกมานับสังเวียนไม่ถ้วน ทำให้ ร็อคกี้ ทุกวันนี้ไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า หมัดก็ไม่หนักดังเดิม เดินไปไหนมาไหนก็ไหล่ห่อ จนแทบไม่เหลือเค้าลางแห่งวันที่เคยเกรียงไกร หากจะมีหลงเหลืออยู่บ้างก็แค่เพียงเรื่องเก่า ๆ เล่าขานไปวัน ๆ แต่ลึกลงไปในใจแล้วเขาก็ยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ในใจของเขาแล้ว ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้อยู่ตลอดเวลา
เมสัน “เดอะ ไลน์”(แอนโทนิโอ ทาร์เวอร์ ) ดิ๊กซ่อนเป็นนักชกเจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวทที่ได้มาจากการชกกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เก่งกาจนัก จนแทบไม่ได้พิสูจน์ผีไม้ลายมือในสังเวียนเอาเลย เพราะไม่เคยเจอกับคู่ชกที่กระดูกมวยพอฟัดพอเหวี่ยงเลยสักคน ดิ๊กซ่อนจึงเป็นแค่นักชกมีศิลปะเชิงมวยเพียบพร้อมแต่ไม่ได้ใจแฟนมวยเลยสักนิดเดียว นั่นก็เท่ากับไร้อนาคตในวงการกีฬาโดยสิ้นเชิง...
แล้วก็เกิดศึกเสมือนจริงที่อาศัยคอมพิวเตอร์สร้างสถานการณ์ให้เขาได้เปรียบเชิงมวยกับ ร็อคกี้ บัลโบ สมัยที่นักชกผู้เกรียงไกรยังรุ่งโรจน์ ถ้าจับทั้งคู่มาดวลหมัดกันใครจะเป็นเจ้าสังเวียน ระหว่าง ดิ๊กซ่อนลีลาแย็บและฟุตเวิร์คสุดเฉียบ กับ ร็อคกี้ใจแกร่งแรงไม่มีถอย ผู้จัดการของดิ๊กซ่อนก็คิดได้ว่า นี่จะเป็นวืธีเรียกศรัทธาจากแฟนมวยได้เป็นอย่างดี แล้วผู้คนน่าจะหันมาสนใจการชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวทกันอีกครั้ง
จากแนวคิดที่เป็นเพียงเรื่องขำ ๆ คิดกันไปได้ กลายเป็นศึกชิงเจ้าสังเวียนที่ดึงให้ ร็อคกี้ ซึ่งอายุอานามมากกว่า ดิ๊กซ่อน คู่ชกหนุ่ม เกือบ 2 เท่า ได้กลับขึ้นสังเวียนที่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้โอกาสอีกครั้ง และเป็นโอกาสหนึ่งในล้านที่จะพิสูจน์ตัวเอง และให้คนที่เขารักได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชราแต่จิตใจกลับแกร่งกว่าเดิม