พ่อแม่ 2 นิสิต ป.โท เหยื่อเบนซ์ชนฟอร์ด ร้องแจ้งข้อหา "ฆ่าคนตาย" เพิ่ม
โพสต์
19 เม.ย., 2559
พ่อและแม่ 2 นิสิต ป.โท เหยื่อเบนซ์ชนฟอร์ด เข้าร้องเจ้าหน้าที่ วอนตรวจสอบและแจ้งข้อหาเสี่ยเบนซ์เพิ่ม ข้อหาฆ่าคนตาย หลังพบว่าก่อนเกิดเหตุขับรถเร็ว 257 กิโลเมตร/ชั่วโมง
วันที่ 19 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.งานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดี นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ชนรถยนต์ฟอร์ด เป็นเหตุให้ นางสาวธัญฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย และ นายกฤษณะ ถาวร 2 นักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมทั้งสำนวนการสอบสวน โดยมีการตั้งข้อหา นายเจนภพ วีรพร รวมทั้งสิ้น 7 ข้อหา ดังนี้
1. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
2. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
3. เสพสารเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตหรือประสาท
4. เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
5. ขับรถขณะมึนเมาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
6. ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
7. ขับรถขณะหย่อนความสามารถ
ทั้งนี้ พ.ต.อ. เอกราช กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐาน และพยานหลักฐานแวดล้อมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ขอเปิดเผยใด ๆ เนื่องจากมีผลต่อรูปคดี แต่ยืนยันว่าหลักฐานมีเพียงพอในการเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน โดยคาดว่าจะส่งฟ้องอัยการได้ในวันที่ 26 เมษายนนี้
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/135671
วันที่ 19 เมษายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.งานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดี นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ชนรถยนต์ฟอร์ด เป็นเหตุให้ นางสาวธัญฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย และ นายกฤษณะ ถาวร 2 นักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมทั้งสำนวนการสอบสวน โดยมีการตั้งข้อหา นายเจนภพ วีรพร รวมทั้งสิ้น 7 ข้อหา ดังนี้
1. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
2. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
3. เสพสารเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตหรือประสาท
4. เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
5. ขับรถขณะมึนเมาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
6. ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
7. ขับรถขณะหย่อนความสามารถ
ทั้งนี้ พ.ต.อ. เอกราช กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐาน และพยานหลักฐานแวดล้อมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ขอเปิดเผยใด ๆ เนื่องจากมีผลต่อรูปคดี แต่ยืนยันว่าหลักฐานมีเพียงพอในการเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน โดยคาดว่าจะส่งฟ้องอัยการได้ในวันที่ 26 เมษายนนี้
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/135671